ทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์

ทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ ต่างกันยังไง มาหาคำตอบกันดีกว่า

ปัจจุบันมีที่อยู่อาศัยให้เลือกหลากหลายประเภท เช่น คอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว อย่างไรก็ตาม หลาย ๆ คนยังสงสัย เนื่องจากความแตกต่างระหว่างทาวน์โฮมและทาวน์เฮาส์นั้นคล้ายคลึงกันจนหลายคนอาจแยกไม่ออก ดังนั้นในบทความนี้จึงได้รวบรวมข้อมูลความแตกต่างระหว่างทาวน์โฮม ทาวน์เฮาส์ ต่างกันยังไง หลายคนอาจมีคำถาม ซึ่งเป็นคำถามที่หลายคนอาจตอบได้ยาก แต่วันนี้เราได้นำความหมายของการสังเกตความแตกต่างระหว่างทาวน์โฮมกับทาวน์เฮ้าส์มาให้ดูดังนี้

  • ความหมายของทาวน์โฮม

ทาวน์โฮมมีรูปแบบคล้ายกับบ้านเดี่ยว แต่มักจะมีราคาต่ำกว่า เนื่องจากทาวน์โฮมมีผนังจึงติดกับเพื่อนบ้านทั้ง 2 ด้าน คล้ายกับทาวน์เฮาส์ แต่มักมีความสูงประมาณ 2-3 ชั้น และมีพื้นที่ด้านหน้าที่กว้างขวางตั้งแต่ 5-5.7 เมตร ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น นอกจากนี้ทาวน์โฮมยังมีพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ฟิตเนสหรือสระว่ายน้ำ นี่คือข้อแตกต่างระหว่างทาวน์โฮมกับทาวน์เฮาส์ที่เห็นได้ชัด

  • ความหมายของทาวน์เฮ้าส์

ทาวน์เฮาส์จะคล้ายกับทาวน์โฮมคือผนังติดกับเพื่อนบ้านทั้งสองด้านและบ้านติดกันตั้งแต่ 2 หลังขึ้นไป อย่างไรก็ตาม มักจะมีพื้นที่หน้าบ้านกว้างประมาณสี่ถึงห้าเมตรเท่านั้น มีความสูงไม่เกิน 2 ชั้นและไม่มีพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้ทาวน์เฮาส์หลายหลังมีราคาค่อนข้างถูก

โดยสรุป ทาวน์เฮาส์กับทาวน์โฮมจะคล้าย ๆ กัน โดยทาวน์โฮมจะมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าเล็กน้อย หรืออาจมี 3 ชั้นสำหรับทำเป็นสำนักงาน สำหรับคนไทยคงคุ้นเคยกับคำว่า ทาวน์เฮาส์ มานาน และเข้าใจว่าเป็นบ้านที่มีลักษณะเป็นห้องแถวหรือตึกแถวที่อาจจะไม่หรูหรามากนัก อย่างไรก็ตาม คำว่า “ทาวน์โฮม” เป็นคำที่ค่อนข้างใหม่และถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดเพื่อทำให้ทาวน์โฮมดูน่าสนใจยิ่งขึ้น สิ่งนี้มีผลทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนบ้านที่อบอุ่นและสะดวกสบาย เนื่องจากบ้านเป็นที่ที่ผู้อยู่อาศัยรู้สึกปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นทาวน์เฮาส์หรือทาวน์โฮมเมื่อระบุในหนังสือราชการจะเรียกว่าทาวน์เฮาส์ทั้งหมด

เลือกซื้อทาวน์โฮม และทาวน์เฮ้าส์อย่างไร ให้ตอบโจทย์

เมื่อได้ทำความเข้าใจว่าทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ ต่างกันยังไงแล้ว เราควรทราบเคล็ดลับการเลือกซื้อบ้านเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากที่สุด เคล็ดลับในการซื้อมีดังนี้

  • เลือกบ้านที่ตั้งอยู่หัวมุม หรือริมสุด

การเลือกบ้านที่อยู่หัวมุมหรือหลังริมเป็นทางเลือกทั่วไปสำหรับผู้ซื้อครั้งแรก เนื่องจากบ้านแบบนี้มักจะได้รับลมและแสงแดดมากกว่า ฮวงจุ้ยดีกว่า และมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า

  • ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก

ทาวน์โฮมและทาวน์เฮาส์มักตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเมือง ทำให้ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกสำคัญต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน มหาวิทยาลัย ห้างสรรพสินค้า ตลาด และธนาคาร เป็นต้น

  • เลือกตามหลักฮวงจุ้ย

การเลือกบ้านตามหลักฮวงจุ้ยไม่เพียงแต่ช่วยให้บ้านของคุณดูดีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ช่วงเวลาแห่งความสุขและความสบายใจอีกด้วย รวมถึงการเลือกประตูหน้าบ้านให้สัมพันธ์กับทิศทางลม ซึ่งช่วยนำพาพลังงานที่ดีเข้ามาในบ้าน เสริมอำนาจ บารมี และโชคลาภให้กับเจ้าของบ้าน

  • เปรียบเทียบความคุ้มค่า

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจซื้อบ้าน คือการเปรียบเทียบมูลค่าของมัน ควรศึกษาและหาข้อมูลของบ้านแต่ละโครงการให้เพียงพอ จากนั้นควรเยี่ยมชมโครงการบ้านเพื่อสำรวจว่า แต่ละโครงการสามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิต หรือมีพื้นที่ใช้สอยเพียงพอหรือไม่ เป็นสัดส่วนที่เหมาะกับครอบครัวของคุณหรือไม่ วิธีนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าบ้านหลังนี้เหมาะกับคุณหรือไม่

สิ่งที่ต้องดูเมื่อต้องซื้อทาวน์โฮมหรือทาวน์เฮ้าส์

ในการเลือกซื้อทาวน์โฮม ควรพิจารณาโครงการให้ดี และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นประเภทที่เหมาะสม ไม่เป็นทาวน์เฮาส์ เพราะราคาของทาวน์โฮมโดยรวมแล้วจะสูงกว่าทาวน์เฮาส์

ดูเรื่องของความต้องการที่แท้จริง

ก่อนซื้อทาวน์โฮม สิ่งต่อมาที่ต้องพิจารณาคือความต้องการของคุณ เพราะทาวน์โฮมมักมี 2 ประเภท คือเพื่ออยู่อาศัยและสำหรับทำโฮมออฟฟิศ คุณสามารถเปลี่ยนทาวน์โฮมให้เป็นสำนักงานขนาดเล็กหรือพื้นที่ทำงานได้ หากคุณมีแผนที่จะทำธุรกิจหรือสำนักงานของคุณเองในอนาคต ควรเลือกทาวน์โฮมที่ตอบโจทย์การทำงานของคุณ อย่าเลือกรูปแบบที่เหมาะกับการอยู่อาศัย เพราะเมื่อคิดจะทำสำนักงานก็ต้องเสียเวลาต่อเติม จะประหยัดกว่ามาก หากเราเลือกซื้อทาวน์โฮมที่มีฟังก์ชันโฮมออฟฟิศตั้งแต่แรก แทนที่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงที่มากขึ้นซึ่งเป็นเรื่องยาก

พื้นที่หน้าบ้านทาวน์โฮม

การเลือกซื้อทาวน์โฮมสักหลังต้องพิจารณาพื้นที่ใช้สอยหน้าบ้านให้ดีเพราะอาจไม่ติดรถไฟฟ้าแบบคอนโด และใช้เป็นที่จอดรถได้ หน้ากว้างของทาวน์โฮมส่วนใหญ่ควรมีอย่างน้อย 4 เมตร แต่ข้อแนะนำคือ พื้นที่ควรมีความกว้างอย่างน้อย 5 เมตร ยิ่งกว้างเท่าไรก็จะยิ่งมีที่จอดรถมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้เมื่อไม่มีที่จอดรถก็สามารถใช้พื้นที่ทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ นอกจากความกว้างแล้วความลึกของหน้าบ้านก็สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าหน้าบ้านกว้างเกินไปก็จอดรถได้ไม่เต็มคัน ถ้าความลึกไม่พอ ความลึกขั้นต่ำตามกฎหมายคือ 3 เมตร แต่ความลึกนี้เหมาะสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กเท่านั้น เมื่อครอบครัวของเราเดินทางด้วยรถกระบะ หรือรถขนาดใหญ่จำเป็นต้องเลือกพื้นที่หน้าบ้านในโครงการทาวน์โฮมที่มีความลึกประมาณ 5-5.5 เมตรขึ้นไป

วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง

ปัจจุบันมีโครงการทาวน์โฮมที่กำลังดำเนินการอยู่หลายโครงการ บางโครงการสร้างเร็วและใช้วัสดุสำเร็จรูป บางโครงการกำลังก่อด้วยอิฐฉาบปูน แม้ระบบก่อผนังสำเร็จรูปจะแข็งแรงแต่ต้องตรวจสอบให้ดี คุณภาพของวัสดุที่ใช้ทำบ้านสำเร็จรูปแตกต่างกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ มีข้อจำกัดมากกว่าบ้านอิฐและปูน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องถามตัวคุณเองว่าบ้านประเภทใดที่จะตอบสนองความต้องการของคุณได้ดีที่สุด

พื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวก

เนื่องจากทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ ต่างกันยังไง และคุณได้เห็นถึงแล้วว่าความแตกต่างระหว่างทาวน์โฮมและทาวน์เฮาส์อยู่ที่พื้นที่ส่วนกลาง ดังนั้น การเลือกซื้อทาวน์โฮมจึงควรใส่ใจในส่วนนี้อย่างใกล้ชิด คุณควรสอบถามทางโครงการว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น สวนสาธารณะ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และระบบรักษาความปลอดภัย รวมถึงระบบสื่อสาร น้ำประปา ไฟฟ้า ระบบทำความสะอาด ที่เก็บขยะ ล้วนต้องมีขนาดและปริมาตรเพียงพอรองรับผู้มาใช้บริการในโครงการ ก่อนตัดสินใจซื้อต้องพิจารณา “ค่าส่วนกลาง” ว่าเหมาะสมกับสิ่งที่ได้รับหรือไม่

ทำเลที่ตั้งของโครงการ

ท้ายที่สุดก็เป็นเรื่องของที่ตั้งโครงการ โครงการทาวน์โฮมส่วนใหญ่ไม่ติดรถไฟฟ้า ผู้ที่ซื้อบ้านลักษณะนี้มักเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเลือกซื้อทาวน์โฮมที่ถูกใจได้ทุกที่ บ้านซึ่งอยู่ไกลจากโรงพยาบาล, ออฟฟิศ และโรงเรียน ไม่สามารถตอบโจทย์ชีวิตให้มีความสุขได้อย่างแท้จริง แม้บ้านจะใหญ่และสวยงามแต่ถ้าไม่อยู่ใกล้ทางด่วน และไม่ติดถนนใหญ่ ก็ไม่สามารถให้ความสุขในชีวิตได้ เลือกทำเลที่มีความพร้อมในแหล่งชุมชนเช่น แหล่งช้อปปิ้ง, ตลาด ซึ่งช่วยให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย หาของกิน ของใช้ได้อย่างไม่ยุ่งยากนั่นเอง